ดูลิเกแล้วนำมาแต่งกลอน โดยดินหญ้ากาช้ำ eat
องค์สิงขร เทวี นางนี้หนอ
ถูกเชือดคอ เพราะไม่ซื่อ ถือสัตย์ไม่
นางกล่าวว่า อันบ้านเมือง ของผู้ใด
กษัตริย์ย่อม พลีได้ เพื่อประชา
เมื่อพระร่วง ผัวรัก ของนางเจ้า
เคยแนบเนา เคล้าคลุก สุขนักหนา
คิดแข็งเมือง เรืองอำนาจ ต่อบิดา
คิดเข่นฆ่า ไพร่ฟ้า นครทม
บ้านเมืองใคร ใครก็รัก ผิดหลักหรือ
จะไว้ชื่อ สิงขร ก่อนขื่นขม
เมื่อคู่ชิด คิดตัดรัก หักอารมณ์
มาทับถม ลับหลัง ไม่ยั่งยืน
ผัวจับได้ ว่าเมีย เป็นไส้ศึก
จิตรสำนึก ของกษัตริย์ ต้องตรัสฝืน
เมียไม่คิด ว่าผัว ผู้หยัดยืน
จะหยิบยื่น ความตาย ให้กับเมีย
ยามนี้เปรียบ เหมือนจะสิ้น อัสสาสะ
คงต้องละ ร่างไป ให้ไกลเสีย
ก่อนจะจาก ผัวจ๋า มองหน้าเมีย
เพราะอ่อนเพลีย เหลือเกินแล้ว ภัสดา
เมียขอตั้ง ดวงจิต อธิษฐาน
ให้วิญญาณ ไปเกิด ในภพหน้า
ขอให้เมีย เป็นเกือกทอง รองบาทา
ของขุนผา พระร่วงเจ้า ทุกชาติไป
โอ้ชาตินี้ เมียคง บุญน้อยนัก
มิอาจอยู่ เป็นคู่รัก กับผัวได้
พระร่วงเจ้า ทำเพื่อ สุโขทัย
สิงขรไซร้ ก็ตายได้ เพื่อธานี
ถ้าพูดถึง หนึ่งใน น้ำใจน้อง
มันร่ำร้อง รักมั่น ไม่ผันหนี
น้องทำไป ก็เพราะรัก และภักดี
เพราะน้องมี เกียรติกษัตริย์ คอยตัดรอน
โอ้พ่อขุน ผาเมือง ของเมียแก้ว
ทรงสิ้นแล้ว ความเอ็นดู เป็นคู่หมอน
พระร่วงเจ้า เคยให้ ไม่อาทร
องค์สิงขร สุดสะท้อน อ่อนวจี
พระเนตรมืด หม่นมัว ผัวยังไม่
หันหน้ามา อาลัย ไฉนนี่
ขุนผาเมือง เรืองรุ่ง มุ่งแต่พลี
ดวงฤดี จึงไม่เหลือ เผื่อน้องยา
ขอนอนตาย ใต้แทบ ฝ่าพระบาท
สิ้นชีวาตม์ ขาดใจ ไปภพหน้า
ขอสนอง รองรับ พระบัญชา
เป็นทาสา ภัสดา ทุกราตรี
ขอเพียงหยด นัยนา พาไปภพ
หลังร่างกลบ ธรณิน สิ้นเป็นผี
นัยนา อาทร ร้อนฤดี
เป็นสิ่งที่ ผูกพัน ทุกวันคืน
องค์สิงขร ร่ำร้อง หม่นหมองไหม้
ขุนผาเมือง ก็ไม่ ได้หยิบยื่น
คำร้องขอ รอให้รัก ได้กลับคืน
พระทรงฝืน ขืนใจ ไม่หันมอง
องค์เทวี สิงขร ผู้พลัดพราก
นางต้องจาก เคหา พาหม่นหมอง
มาพลีกาย ถวายตัว ให้ผัวครอง
หวังปรองดอง สองเมือง ให้ร่มเย็น
เพราะต้องเลือก บ้านเมือง นั้นเป็นหลัก
ทิ้งความรัก ลุ่มหลง ไม่ลงเล่น
พระร่วงเจ้า ก็ต้องทำ เพราะจำเป็น
ต่างซ่อนเร้น หัวใจรัก เพื่อบ้านเมือง