พระลอแลพี่เลี้ยงลอบเข้าวัง ได้กึ่งเดือน ความรั่วรู้ถึงท้าวพิไชยพิษณุกร
พระลอลอบเข้าวัง
เสพสุขอยู่ได้ครึ่งเดือน ความล่วงรู้ถึงท้าวพิไชยพิษณุกร จึงมาลอบมาดู หนที่แรกให้นึกแค้นนัก แต่พลันคิดขึ้นมาได้ว่าควรรับไว้เปนเขย
____________________________
ร่าย
o พี่เลี้ยงถวายบังคม ประนมเชิญสองเสร็จ เสด็จถึงเกยทั้งสอง คานหามทองรับราช หมู่นางดาษบริพาร พี่รื่นชาญเชิงแก้ ซ่อนแง่งำเงื่อนมิด ปิดประตูไว้เสร็จ โดยเสด็จถึงทวารใหญ่ ใส่กลว่าลืมเครื่อง เบื้องในรัตนไสยา แม่โรยมาจะไปดู จงเปิดประตูไว้ท่า ไปบช้าบหึง ถึงเรือนรมย์พิมาน ไขทวารออกไส้ ให้นางโรยอยู่เฝ้า นางรื่นเข้ารับราช สองนายนาดมาตาม ยามค่ำคลุ้มบเห็นหน้า ลอบพิตรเจ้าหล้า กับพี่เลี้ยงปลอมไป ฯ
โคลง ๓
o ถึงทวารในเรือนหลวง คล้ายถึงคลวงสองท้าว
เชิญราชเสด็จขึ้นหย้าว อยู่เร้นเรือนโรย ฯ
โคลง ๒
o สองนางโดยเสด็จไท้ สองซ่อนสองนายไว้
บให้เห็นตัว ฯ
o ราตรีมัวมืดฟ้า เชิญบพิตรเจ้าหล้า
ลอบขึ้นสมศรี ฯ
o ภัควะดีดวงดอกไม้ เสด็จออกมารับไท้
ธิราชเข้าไปใน ฯ
o เยียใดพระอยู่ช้า พระจะละให้ข้า
พี่น้องตรอมตาย ฯ
o ถวายกรจูงเจ้าหล้า ขึ้นบนแท่นทิพย์อ้า
อ่อนได้แรงรมย์ ฯ
o พระตนกลมเสด็จแล้ว เหนือฟูกผ้าเขนยแก้ว
พระพี่น้องผจงถวาย ฯ
o ม่านแพรพรายเลิศล้น หูนากหูทองพ้น
พิศพื้นลายทอง ฯ
o ดอกไม้กรองเรียบร้อย หอมตระหลบอบห้อย
แห่งห้องไสยา ฯ
o พิดานดาดาษแก้ว เฉลามาศฉลับแพร้วแพร้ว
เพริศกั้งกษัตรีย์ ฯ
โคลง ๔
o ผ้าต้นตีค่าล้วน ทองถวาย
ถวายกระแจะจรุงลาย ลูบไล้
สลาพานมกรราย รัตนแต่ง ถวายนา
พระกระยาเสวยไท้ อ่อนท้าวผจงถวาย ฯ
o เสวยแล้วสามท่านไท้ เสวยรมย์
หับประตูทองผทม ท่านไว้
สองนางพี่ไปสม สองพี่ นายนา
สรวลสนุกไล้ไล้ คู่เคล้าคลึงสมร ฯ
o สองท้าวซอนซ่อนไท้ เปนกล
รู้แต่นางสองคน พี่เลี้ยง
ประมาณกึ่งเดือนดล จรหล่ำ แลนา
สรวลสนุกเล่นเพี้ยง บรู้โรยแรง ฯ
ร่าย
o ลางคาบแสดงดุจไข้ ลางคาบไท้ธสำราญ ลางคาบบานใจเหล้น ลางคาบเร้นส้อนองค์ ซุบซิบทรงเงื่อนแง่ แต่พี่เลี้ยงเข้าใน ใครใครบให้เข้า ฝูงชาวเจ้าพระกำนัล สกิดกันลอบเจรจา บัดนี้น่าหลากแท้ สองอยู่เกล้าเราแล้ กับพี่เลี้ยงเปนกล ฯ
โคลง ๒
o ควันความจนรั่วรู้ ดอกบนำพารู้
หนึ่งให้แลดู ฯ
โคลง ๓
o ดอกขายหูขายตา คล้ายถึงคลวงสองท้าว
ขจรข่าวถึงท้าวผู้ พ่อไท้ทั้งสอง ฯ
โคลง ๒
o ลอบมามองลูกไท้ เคียดคู่ไฟฟ้าไหม้
แฝกฟุ้งไฟเข็ญ ฯ
o ลอบแลเห็นเจ้าหล้า ลอราชงามโอ่อ้า
อาจให้หายฟุน ฯ
o รอยบุญเขาส่งให้ ไกลกว่าไกลเปนใกล้
ยิ่งใกล้อัศจรรย์ ฯ
o ลักชมขวัญคะค้อย ลอราชนี้เท่าร้อย
อยู่เงื้อมบทจร ฯ
o ได้ภูธรดุจได้ ฟ้าแลดินมาไว้
อยู่เงื้อมมือเรา ฯ
o เอาเปนเขยแขกแก้ว ยศโยคฤๅรู้แล้ว
เลิศพ้นประมาณ ฯ
พระย่าไม่ยอมให้ล้อมจับมาฆ่าเสีย
ท้าวพิไชยพิษณุกรต้องใจพระลอ ตกลงรับพระลอเปนเขย
แต่พระย่าไม่ยอม แอบอ้างราชโองการสั่งทหารให้ไปจับพระลอมาฆ่าเสียจงได้
พระลอไม่ยอมให้จับ พระเพื่อนพระแพงแลนางรื่นนางโรยสู้อยู่เคียงข้าง
____________________________
ร่าย
o ภูบาลแสร้งแสดงองค์ สองไหว้บงกชบาท พระลอราชค่อยถาม สองบอกนามปิตุราช พระบาทไท้เลืองลอ ธก็ยอกรกชประนม ถวายบังคมชมชื่น ยื่นความชอบนอบทูล ว่านเรสูรเจ้าหล้า ข้าร้างราชสมบัติ สลัดเสียเสร็จสล้าย หว้ายแต่ตัวมาหา พระปิตุราธิราช ข้าขอฝากอาตม์ประยูร เปนตระกูลเดียวด้วยไท้ ไว้เปนเอกวงศา เท่ากัลปาวสาน ภูบาลครั้นได้ยิน บานอรพินทุ์หฤทัย ประไพพักตรพิลาศ ยิ่งกว่าราชผู้ใหญ่ ได้ท้าวไส้สัมฤทธิ์ บพิตรพิศพระราชา มาเปนเอกเอารสราช ด้วยนางนาฎสองศรี พ่อจะให้ดูวันดีเดือนชอบ แล้วจะประกอบการวิวาห์ ท้าวธพจนาดังนี้เสร็จ ธก็เสด็จยังมนทิราไลย ข่าวขจรไปถึงย่า ย่าไปว่าไปวอน อ้าภูธรธิบดี ลูกไพรีใจกาจ ฆ่าพระราชบิดา แล้วลอบมาดูถูก ประมาทลูกหลานเรา จะให้เอาจงได้ อย่าไว้ช้าดัสกร เราจะให้ฟอนให้ฟัน เราจะให้บั่นให้แล่ ทุกกระแบ่จงหนำใจ วอนเท่าใดก็ดี ปิ่นธรณีนาถมิฟัง ย่าไปยังวังย่า ว่าแก่หมู่ทกล้าทหาร ข้าผู้ชำนาญผู้ใหญ่ ใส่กลว่าท่านไท้ ธให้ไว้เปนงารตู ตูจะให้สูทั้งหลายฆ่า ว่าผู้ดูชาดูแคลน แหนความเราจงมิด ปิดความเราจงทั่ว ใครให้รั่วความขำ จะทำทัณฑ์ถึงขนาด ดาบปาดคอจงม้วย ด้วยบยำคำเรา เขาก็รับพระราชฎีกา ขันอาสาอคร้าว ท้าวธิราชท่าดู เล่ห์กลตูจะเอา เขาก็ลอบแต่งกันกั้น ครั้นราตรีดึกสงัด เขาก็สพัดสามรอบ ล้อมขอบเขตนิเวศน์วัง ขังบให้คนเข้าออก เขาจึงบอกแก่นายแก้วนายขวัญ สองฟังพลันยังจอมกษัตริย์ ทูลระหัสทุกประการ ภูบาลยิ้มแย้มหัว บมิกลัวเร่งองอาจ ดูดุจราชไกรสีห์ ครวีอาวุธภุชพล ตนนายแก้วนายขวัญ ขันอาสาเจ้าหล้า เผือข้าแจ้งใจถวาย ขอตายก่อนพระองค์ สองอนงค์อนุช น้อมศิรามพุชกับบาท ไท้ธิราชสาหส ธก็โลมบงกชกษัตรีย์ สองภัควะดีอย่าตกใจ บเปนใดณสองศรี มีพระสาสนชมชัว ค่อยยิ้มหัวเหล้นพลาง สองนางจึ่งชมชื่น ยื่นใจจริงบมิช้า เผือข้าก็กษัตริย์ชาติ ใจบมิขลาดกลัวตาย บมิเอาชายอื่นเปนคู่ บมิอยู่ให้ไทดูช้า บมิอยู่ให้ข้าดูแคลน ครั้นพระเมือแมนเมืองฟ้า เผือข้าตายตามราช พระบาทอย่าอาไลย สองเปลื้องสไบซ้ำซ่อน ทรงผ้าอ่อนร่อนดาบ อยู่ตราบข้างจอมกษัตริย์ บัดนางโรยแลนางรื่น ชื่นชมใจเชื่อแท้ แม้สามกษัตริย์สู่ฟ้า เผือจะเปนข้าผู้ใด ใครเขาจะเกรงจะขาม ขอตายตามเจ้าตน อยู่เมืองบนด้วยไท้ ไว้ยศให้คนชม ถวายบังคมนฤเบศร์ สองแปรเพศดุจชาย ห่มเสื้อกรายดาบง่า นางรื่นร่าไปสู่ อยู่ด้วยนายแก้วฝ่ายขวา นางโรยมาด้วยพลัน อยู่ด้วยนายขวัญฝ่ายซ้าย บมิผ้ายจากเจียนกัน เห็นอัศจรรย์จอมราช พระบาทเสด็จอยู่กลาง สองนางแนบสองข้าง เจ้าช้างจูบสองศรี สองกษัตรีย์จูบท้าว สองนายน้าวสองนาง กอดกันพลางชมเชย มินานเลยเขาเข้า เท่าถึงทวารปราสาท นายแก้วฟาดดาบฟัน นายขวัญแทงสุดทาว ลาวฝูงข้าพ่ายหนี ตีกันปือขึ้นคลุก ท้าวธก็รุกโรมฟัน ตายทับกันกลากลาศ หัวขาดตกเปนกลุ่ม เขาเร่งทุ่มหินผา ดากันเข้าระเร้ง ไม้ไล่เท้งฝาทลาย ส่วนสองนายพี่เลี้ยง รำร่อนรับอยู่เพี้ยง ดังช้างเมามัน ฯ