๏ ข้าท่านคร้านหลีกเจ้า จากเจียร
ชีบ่เล่าเรียนเขียน อ่านไซร้
ชาวนาละความเพียร ไถถาก
สามสิ่งนี้โหดให้ โทษแท้คนฉิน ฯ
๏ นายเรือนใหญ่อยู่เหย้า เรือนตน
นายช่างเป็นใหญ่คน ลูกบ้าน
ท้าวพระยาใหญ่กว่าชน ในเขต แดนนา
นักปราชญ์ใหญ่แปดด้าน ทั่วด้าวทิศา ฯ
๏ สตรีดีรูปได้ เป็นทรัพย์
ชายฉลาดความรู้สรรพ ทรัพย์ได้
พราหมณ์ทรงเวทยานับ ว่าทรัพย์ พราหมณ์นา
ภิกษุเกิดลาภไซร้ เพื่อรู้เทศน์ธรรม ฯ
๏ เรียนสรรพสบศาสตร์สิ้น เพลงศิลป์
ประสิทธิ์เสร็จทั้งแดนดิน ย่อมได้
ตามปัญญายิ่งโดยจินต์ คดีโลก
สอนอัชฌาสัยไซร้ ห่อนได้มีครู ฯ
๏ เรียนรู้ครูบอกได้ เสร็จสรรพ์
สบศาสตร์ศิลป์ทุกอัน ย่อมรู้
อัชฌาสัยแห่งสามัญ บุญแต่ง มาแฮ
ครูทักนักสิทธิผู้ เลิศได้บอกเลย ฯ
๏ แม้นบุญยังอย่าได้ ขวนขวาย
อย่าตื่นตีตนตาย ก่อนไข้
ลูกพร้าวอยู่ถึงปลาย สูงสุด ยอดนา
ใครพร่ำน้ำตักให้ หากรู้เต็มเอง ฯ
๏ นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว
รังแต่งจุเมียผัว อยู่ได้
มักใหญ่ย่อมคนหวัว ไพเพศ
ทำแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน ฯ
๏ เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม ใจตาม
เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน
อุตส่าห์พยายาม การกิจ
เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าน อย่าท้อทำกิน ฯ
๏ เริ่มการตรองตรึงไว้ ในใจ
การจะลุจึงไข ข่าวแจ้ง
เดื่อดอกออกห่อนใคร เห็นดอก
ผลผลิตติดแล้วแผร้ง แพร่ให้คนเห็น ฯ
๏ การใดตรองผิดไซร้ เสียถนัด
เอาสิ่งนั้นตรองขัด คิดแก้
หนามยอกสิ่วแคะคัด ฤๅออก
หนามต่อหนามนั้นแล้ เขี่ยได้คืนถอน ฯ
๏ ผมผิดคิดสิบห้า วันวาร
ทำไร่ผิดเทศกาล ขวบเช้า
เลี้ยงเมียผิดรำคาญ คิดหย่า
ทำผิดไว้คิดเศร้า ตราบเท้าวันตาย ฯ
๏ เดินทางต่างเทศให้ พิจารณ์
อาสน์นั่งนอนอาหาร อีกน้ำ
อดนอนอดบันดาล ความโกรธ
ห้าสิ่งนี้คุณล้ำ เลิศล้วนควรถวิล ฯ
๏ อาศัยเรือนทาสท่านให้ วิจารณ์
เห็นท่านทำการงาน ช่วยพร้อง
แม้มีกิจโดยสาร นาเวศ
พายถ่อช่วยค้ำจ้อง จรดให้จนถึง ฯ
๏ เขาบ่เรียกสักหน่อยขึ้น เคหา
ท่านบ่ถามเจรจา อวดรู้
ยกตนอหังการ์ เกินเพื่อน
สามลักษณะนี้ผู้ เผ่าร้ายฤๅดี ฯ
๏ เป็นคนคลาดเหย้าอย่า เปล่ากาย
เงินสลึงติดชาย ขอดไว้
เคหาอย่าศูนย์วาย เข้าเปลือก มีนา
เฉินฉุกขุกจักได้ ผ่อนเลี้ยงอาตมา ฯ
๏ สินใดบ่ชอบได้ มาเรือน
อยู่แค่เจ็ดเดือนเตือน ค่ำเช้า
ครั้นนานย่อมเลือนเปือน ปนอยู่
มักชักของเก่าเหย้า มอดม้วยหมดโครง ฯ
๏ ตมเกิดแต่น้ำแล่น เป็นกระสาย
น้ำก็ล้างเลนหาย ซากไซร้
บาปเกิดใช่แต่กาย เพราะจิต ก่อนนา
อันจักล้างบาปได้ เพราะน้ำใจเอง ฯ
๏ อายครูไซร้ถ่อยรู้ วิชา
อายแก่ราชาคลา ยศแท้
อายแก่ภรรยาหา บุตรแต่ ไหนมา
อายกับทำบุญแล้ สุขนั้นฤามี ฯ
๏ หน้าแช่มชื่นช้อยเช่น บัวบาน
ถ้อยฉ่ำคำเฉื่อยหวาน ซาบไส้
หัวใจดั่งดาบผลาญ ชนม์ชีพ
เขาเหล่านี้กล่าวไว้ ว่าผู้ทรชน ฯ
๏ หลีกเกวียนให้หลีกห้า ศอกหมาย
ม้าหลีกสิบศอกกราย อย่าใกล้
ช้างสี่สิบศอกคลาย คลาคลาด
เห็นทุรชนหลีกให้ ห่างพ้นลับตา ฯ
๏ พาชีขี่คล่องคล้อย ควรคลา
โคคู่ควรไถนา ชอบใช้
บนชานชาติวิฬาร์ ควรอยู่
สุนัขเนาแต่ใต้ ต่ำเหย้าเรือนควร ฯ
๏ กระบือหนึ่งห้ามอย่า ควรครอง
เมียมิ่งอย่ามีสอง สี่ได้
โคสามอย่าควรปอง เป็นเหตุ
เรือนอยู่สี่ห้องให้ เดือดร้อนรำคาญ ฯ
๏ มีเรือค้าขี่ห้า ลำนอ ห้ามแฮ
สุนัขหกอย่าพึงพอ จิตเลี้ยง
แมวเจ็ดเร่งเร็วขอ มาใส่ อีกนา
ช้างแปดม้าเก้าเหยี้ยง อย่างห้ามเพรงมา ฯ
๏ มีเงินให้ท่านกู้ ไปนา
ศิลปศาสตร์ฤๅศึกษา เล่าไว้
มีเมียอยู่เคหา ไกลผ่าน
สามลักษณะนี้ใกล้ แกล่แม้นไป่มี ฯ
๏ สบพบคนเคลิ้มอย่า เจรจา
ลาภอยู่ไกลอย่าหา ใคร่ได้
มีลูกโฉดปัญญา ยากจิต ตนนา
เมียมิตรร้ายอย่าใกล้ อยู่เพี้ยงขันที ฯ
๏ ไร้สิ่งสินอับแล้ว ปัญญา
อีกญาติวงศ์พงศา บ่ใกล้
คนรักย่อมโรยรา รสรัก กันแฮ
พบแทบทางทำใบ้ เบี่ยงหน้าเมินหนี ฯ
๏ อย่าเรียนเพียรคิดค้น ขุดของ
อย่าตริตรึกนึกปอง บ่อนเหล้น
อย่าเรียนเวทมนตร์ลอง สาวสวาท
แปรธาตุหนึ่งพึงเว้น สี่นี้เบียนตน ฯ
๏ รักมิตรสุภาพไซร้ สมรมิตร
รักเผ่าพงศาสนิท ซื่อไซร้
รักหญิงอย่าพึงคิด สินอ่อย เอานา
รักสัตย์ศีลจักได้ สุขแท้ทางสวรรค์ ฯ
๏ รักทรัพย์อย่ายิ่งด้วย วิชา
สว่างอื่นเท่าสุริยา ห่อนได้
ไฟใดยิ่งราคา เพลิงราค ฤๅพ่อ
รักอื่นหมื่นแสนไซร้ อย่าสู้รักธรรม ฯ